เส้นทางจาก Developer สู่ UX Designer [PART II]
หลังจากได้เข้ามาร่วมทีมครั้งแรกที่ ODDS ในฐานะ member ของ Delivery team ด้วย skill ที่ผมมีอยู่จึงต้องรับหน้าที่เป็น Agile Engineer (aka developer ที่ทำงานใน process agile) ไปก่อน
แต่ด้วยความที่สนใจในเรื่อง UX Designer และมีเป้าหมายในการอยากทำงานในด้านนี้ชัดเจน โพสนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังว่าผมมีวิธีการยังไงในการเปลี่ยนเส้นทางในการทำงานครั้งนี้ครับ
สำหรับใครที่อยากสนใจอยากอ่าน Part I
ดิ้นรน 💪🏾
ผมใช้คำนี้เพราะว่าที่ OODS เราไม่ได้มีการจัดแจงหรือคอยมาดูแลว่าคุณอยากเป็นอะไรและต้องไปทำอะไร เพราะฉะนั้นถ้าผมอยากเป็น UX Designer ก็ต้องเพิ่ม skill ทางด้านนี้สิ (แล้วต้องเพิ่มยังไงบ้างล่ะ !?)
- อ่าน — ไม่ว่าจะหนังสือที่เกี่ยวกับ UX หรือบทความออนไลน์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง (ตัวอย่างหนังสือและบทความออนไลน์แนะนำด้านล่าง)
- เรียน — topic นี้ขอแบ่งเป็นอีก 4 หัวข้อนะครับ
- ออฟไลน์ นอกจากคลาสของที่ ODDS เองที่มีคนที่ทำงานในสายนั้นมาแบ่งปันความรู้กันเองแล้ว ผมยังไปลงเรียนตามที่ต่างๆที่เปิดสอนอีกด้วย เจอคลาสอันไหนน่าสนใจก็สมัครไป (เรียกว่าลงทุนกับการศึกษาไปพอสมควร)
- ออนไลน์ สมัยนั้นยังไม่มี Coursera ผมก็เรียนจาก udamy บ้าง ดู youtube เวลามีคนมาพูดในงาน conference ต่างๆบ้าง ดูพวก hard skill การใช้งาน tool ต่างๆบ้าง อย่าง Sketch, Adobe XD, Figma บอกเลยว่าหาไม่ยาก
(ณ วันที่ผมเขียน Blogนี้ ทาง Coursera เขามี Google UX Design Professional Certificate ประกอบไปด้วย 7 คอร์สย่อย เรียนจบได้ cert. ของ google ด้วย แนะนำครับสำหรับคนที่สนใจ เนื้อหาดีมีการบ้านให้ทำ จบออกมาได้ project ประกอบ portfolio ด้วย) - ครูพักลักจำ อันนี้คือระหว่างทำงานเลย พอได้มีจังหวะที่มีโอกาสได้ไปร่วมจังหวะ Discovery หรือเวลาไปคุยานกับ UX, UI ผมก็จะคอยถามพี่ๆหรือแอบดูว่าเขาทำอะไรบ้าง ถ้าได้คีย์เวิร์ดอะไรมาก็จะเอาไปศึกษาต่อเพิ่มเติม
- ชุมชน การเข้าไปสิงอยู่ใน community ต่างๆ โดยตอนนั้นก็ไป join comunity ต่างๆ อย่าง UX Thailand และอื่นๆ ของต่างประเทศก็เช่นกัน บางโพสบางคอมเม้นท์เป็นแหล่งความรู้ชั้นดี ยิ่งช่วงที่ยังจัด meetup ได้ช่วงนั้นผมไป join เกือบหมด เรียกว่าได้ความรู้และประสบการณ์จากทั้ง speaker และคนร่วมงานอย่างมากมาย
ฝึกฝน ✍🏾
ความรู้ถ้าไม่ได้ใช้มันก็อาจจะลืมไป เพราะฉะนั้นการฝึกฝนและทำเป็นประจำจะทำให้ความรู้ที่อยู่ใน short-term memory เดินทางไปอยู่ใน long-term memory ได้
การฝึกฝนหรือทำสิ่งใดให้ลองเริ่มจากอะไรเล็กๆน้อยๆ อย่างการใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆในการ design หรือการเอา UX Process มาปรับใช้ในการทำงาน
แนะนำเครื่องมืออันนึงที่จะช่วยในการฝึกฝนของเราที่ชื่อ Tiny Habits ครับ ลองแบ่งสิ่งที่เราจะทำออกมาเป็นสิ่งเล็กๆย่อยๆ พอสำเร็จแล้วเราก็ไปทำสิ่งต่อไป นอกจากช่วยให้เรามีกำลังใจในการทำอะไรสักอย่างแล้ว เรายังสามารถจัดเรียงลำดับของสิ่งที่ต้องทำได้เป็นอย่างดี (วิธีการใช้งานสำหรับคนที่ยังงงๆถ้ามีโอกาสไว้จะมาแบ่งปันกันในโพสต่อไปนะครับ)
นอกจากฝึกกับตัวเองแล้วตอนนั้นพยายามไปแจม project ต่างๆทั้งใน ODDS และนอก ODDS ด้วย อะไรจะดีไปกว่าการใช้ความรู้ที่มีมาลองลงมือทำ (ใช่มั้ยครับ)
ทบทวน 📚
- ความรู้ – ความรู้บางอย่างก็เป็นสุดยอดทฤษฏีที่ผ่านมาหลายปียังคงใช้กันอยู่ แต่บางอย่างก็มีอายุไข ของที่ใช้ได้ในวันก่อนวันนี้อาจไม่ได้ผลแล้ว เพราะฉะนั้นผมจะทบทวนความรู้ความเข้าใจที่มีอยู่เรื่อยๆ
ในการทบทวนเองบางครั้งอาจจะเจอสิ่งที่เราตกหล่นไปในการศึกษาครั้งแรกหรือแม้กระทั่งอะไรที่เคยเข้าใจและนำไปใช้ผิดๆ ยิ่งพอทบทวน+ฝึกฝน ทำให้เรายิ่งเฉียบคมในความรู้นั้นๆขึ้นไปอีก
- ตัวเอง – หนึ่งในการทบทวนที่ดีคือการทบทวนตัวเองด้วย ว่าตอนนี้เราถึงไหนยังไง ตามเป้าหรือยัง ยังขาดตกอะไรที่ทำให้เรายังไปไม่ถึงจุดหมาย
ปรับปรุง 🙏🏾
ขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาตัวเองคือรู้จักรับ feedback และนำมาปรับปรุง
คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ คงไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะจมอยู่กับความผิดนั้นแต่มันจะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถเห็นข้อผิดพลาดนั้นได้และนำมาปรับปรุงได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนการให้ feedback ที่ดีผมมีเครื่องมือมาที่ชื่อ I Like, I Wish, What if มาแนะนำครับ (รายละเอียดถ้ามีคนสนใจไว้มาเพิ่มเติมให้ใน blog หน้าอีกนะครับ 😋)
จบแล้วครับสำหรับซีรี่ย์การการย้ายสายงานของผมจาก Developer สู่ UX Designer ผ่านกระบวนการ 4 อย่าง “ดิ้นรน”, “ฝึกฝน”, “ทบทวน”, “ปรับปรุง”
ต้องบอกก่อนนะครับว่านี่คือขั้นตอนจากประสบการณ์การส่วนตัวนะครับ ผมใช้แล้วได้ผล บวกกับพอมีโอกาสดีๆจากพี่ๆหลายคนที่มอบให้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมได้ใช้สิ่งที่ทำไว้ก็เลยทำให้ได้โอกาสพิสูจน์ฝีมือ ส่วนถ้านำไปใช้แล้วจะเหมาะกับทุกคนหรือไม่ยังไงผมว่าอย่ามัวแต่คิดเลยครับ เริ่มทำกันเลย ดีไม่ดีก็ปรับใช้ตามความเหมาะสม
หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่สนใจในการย้ายสายไม่มากก็น้อยนะครับ
