เมื่อ AI เขียนบทความเกี่ยวกับการพัฒนา Software ในองค์กร
ผมได้สนทนากับ chatGPT ถึงการพัฒนา software ในองค์กรใหญ่ พูดคุยแลกเปลี่ยนเนื้อหา จนสุดท้ายผมเลยลองให้เขียนออกมาเป็นบทความหน่อย จนได้ออกมาแบบนี้
Disclaimer : เป็นการสนทนาโดยภาพรวมและยกบริบทต่างๆมาประกอบ ไม่ได้เจาะจงถึงองค์กรใดองค์กรหนึ่ง เนื้อหาทั้งหมดมาจาก AI ล้วนๆ ไม่ได้ถูกดัดแปลงหรือเติมแต่งเนื้อหาใดๆ
การพัฒนา Software จากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต: มุมมองจาก AI ที่อยากเห็นการเติบโตขององค์กร
สวัสดีครับ! ผมคือ ChatGPT, AI ที่จะมาแบ่งปันมุมมองและข้อเสนอแนะสำหรับการพัฒนา Software ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไวพอ ๆ กับการปล่อยตอนใหม่ของซีรีส์ยอดนิยม ในหลายองค์กร โดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ มักมีบุคลากรในแผนกเทคโนโลยีที่ทำงานมานาน พวกเขามีประสบการณ์และความสำเร็จมากมายในอดีต ทำให้บางครั้งแนวคิดแบบ Fixed Mindset กลายเป็นกรอบที่ปิดกั้นการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และทำให้องค์กรขาดความยืดหยุ่นในการพัฒนา Software ที่ตอบโจทย์อนาคต
อย่างไรก็ตาม แนวคิดแบบ Growth Mindset ที่เปิดใจเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้แผนกเทคโนโลยีและองค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ในโลกดิจิทัลยุคนี้ มาดูกันครับว่า AI มีข้อคิดอะไรที่อยากจะแชร์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้
“Fixed Mindset: เมื่อความเชื่อเดิมกลายเป็นกรอบที่ปิดกั้นการพัฒนา”
บุคลากรบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่อยู่มานาน อาจมองการเปลี่ยนแปลงด้วยความกลัว เพราะแนวทางที่พวกเขาใช้มาเป็นเวลานานนั้นเคยให้ผลลัพธ์ที่ดี และกลายเป็นสิ่งที่พวกเขามั่นใจว่าปลอดภัย แต่ในโลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แนวทางเดิม ๆ อาจไม่ตอบโจทย์การพัฒนาอีกต่อไป การยึดมั่นกับสิ่งที่เคย “ได้ผล” กลายเป็นเหมือนหินก้อนใหญ่ที่กดทับทีมงานและขัดขวางการพัฒนา
ตัวอย่างที่พบบ่อยคือ บุคลากรที่เปรียบเสมือน “มนุษย์ถ้ำ” ยึดมั่นในวิธีการเดิมเหมือนเชื่อว่าการจุดไฟยังต้องใช้หิน แม้จะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสะดวกกว่า เช่น ไฟแช็กหรือเตาไฟฟ้า แนวคิดแบบนี้ทำให้ขาดการเปิดใจรับสิ่งใหม่และลดโอกาสในการสร้างสรรค์ โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้นำทีมที่มีทัศนคติแบบนี้ พวกเขามักจะใช้อำนาจในการสั่งการเพื่อให้ทีมทำตามวิธีการแบบเดิม ๆ โดยอ้างว่าปลอดภัยและมั่นคง ซึ่งยิ่งทำให้ทีมงานรู้สึกกลัวการลองสิ่งใหม่ เกิดความกดดัน และขาดแรงบันดาลใจในการพัฒนา
“ความกลัวความล้มเหลวที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงสะดุด”
ความท้าทายอีกประการหนึ่งที่ AI เห็นบ่อย ๆ ในการพัฒนา Software คือ เมื่อบางคนหรือบางทีมได้ลองวิธีการใหม่ ๆ แต่ผลลัพธ์อาจไม่สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก พวกเขากลับรู้สึกหวาดกลัวความล้มเหลว และโวยวายที่จะกลับไปใช้วิธีการเดิมที่คุ้นเคย บางครั้งการล้มเหลวเพียงครั้งเดียวกลายเป็น “เครื่องยืนยัน” ให้พวกเขาคิดว่าแนวทางใหม่ ๆ ไม่เหมาะสมกับองค์กร ทั้ง ๆ ที่ความล้มเหลวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
หากผู้นำทีมมีแนวคิดเช่นนี้และใช้วิธีการออกคำสั่งตีกรอบพนักงาน ไม่ให้ทดลองหรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ลูกทีมจะยิ่งขาดความมั่นใจ และหันกลับไปทำตามแบบเดิมที่พวกเขาคุ้นเคย ซึ่งการกลับไปใช้วิธีเดิมนี้อาจดูเหมือนปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้วกลับกลายเป็นภาระให้องค์กรที่ต้องขับเคลื่อนให้ทันกับการแข่งขัน นอกจากนี้ การสั่งการแบบนี้ยังทำให้คนในทีมรู้สึกไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ไม่กล้าลองทำอะไรใหม่ ๆ และเสียโอกาสในการสร้างนวัตกรรมอย่างแท้จริง
“Growth Mindset: การเปิดใจให้กับความท้าทายและการเรียนรู้”
ต่างจาก Fixed Mindset การมี Growth Mindset ทำให้บุคลากรกล้าที่จะทดลอง เรียนรู้จากความผิดพลาด และพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเรามองการล้มเหลวว่าเป็น “บทเรียน” แทนที่จะเป็น “ปัญหา” ทีมงานจะมีโอกาสเรียนรู้และปรับตัวให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป และหากผู้บริหารหรือหัวหน้าทีมเองก็สนับสนุนให้ลูกทีมเปิดใจลองสิ่งใหม่ จะทำให้การพัฒนา Software มีความยืดหยุ่นและมีคุณภาพสูงขึ้นอย่างแท้จริง
บุคลากรที่มี Growth Mindset ไม่เพียงแต่จะพัฒนาตนเอง แต่ยังพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เช่น การทำงานแบบ Agile หรือการทำงานร่วมกันที่ยืดหยุ่น เมื่อพวกเขามองว่าความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งที่ต้องกลัว แต่เป็นโอกาสในการเติบโต จะทำให้พวกเขามีความมั่นใจในการปรับตัวและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์องค์กรได้ดีกว่าเดิม
ข้อเสนอแนะจาก AI เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์
เพื่อให้แผนกเทคโนโลยีของคุณสามารถก้าวข้าม Fixed Mindset และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ตอบโจทย์ AI ขอแนะนำแนวทางดังนี้ครับ:
1. ปรับการทำงานให้ยืดหยุ่นขึ้นด้วยแนวคิด Agile – การทำงานแบบ Agile ช่วยให้ทีมงานมีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว เพราะกระบวนการนี้เปิดโอกาสให้ทีมสามารถทดลอง ปรับปรุง และเรียนรู้ไปพร้อมกัน การทำงานแบบนี้จะช่วยลดความกลัวความล้มเหลวและเปิดโอกาสให้ทุกคนได้พัฒนาตัวเองไปพร้อมกับงาน
2. ส่งเสริมการเรียนรู้จากความล้มเหลว – AI แนะนำให้องค์กรสร้างวัฒนธรรมที่เปิดรับความล้มเหลว การสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่กลัวการทำผิดพลาดจะช่วยให้ทีมงานมีความกล้าและพร้อมที่จะลองสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการค้นหาวิธีการที่เหมาะสมที่สุด
3. เปิดใจรับฟังและให้ทีมมีอิสระในการแสดงความคิดเห็น – การที่ผู้นำทีมยอมรับฟังความคิดเห็นของลูกทีม และไม่ใช้คำสั่งตีกรอบการทำงานมากเกินไป จะทำให้ลูกทีมรู้สึกมั่นใจในศักยภาพของตัวเองและกล้าคิดนอกกรอบ ซึ่งจะช่วยให้แผนกเทคโนโลยีสามารถสร้างสรรค์แนวทางใหม่ที่ตอบสนองความต้องการขององค์กรได้ดีกว่า
4. เน้นการพัฒนาที่ตอบสนองลูกค้าเป็นหลัก – การมี Growth Mindset ไม่ใช่แค่การเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ ภายในทีม แต่ยังหมายถึงการเปิดใจรับฟังความต้องการของลูกค้าและนำมาปรับใช้ในกระบวนการพัฒนา Software เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง
สรุป: AI แนะนำให้สร้าง Growth Mindset เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
ท้ายที่สุด การสร้าง Growth Mindset เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้แผนกเทคโนโลยีขององค์กรพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ไม่เพียงแค่ทำงานได้มีประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้ทีมงานกล้าเผชิญกับความท้าทายและเรียนรู้จากความล้มเหลว
“การเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบตั้งแต่ครั้งแรก”
การเปิดใจและสนับสนุนให้ทีมงานได้ทดลองและเรียนรู้ จะช่วยให้การพัฒนา Software เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่ และช่วยให้องค์กรของคุณก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง
จบแล้วครับ บทความที่เขียนโดย chatGPT เป็นยังไงกันบ้างครับ หวังว่าจะได้ข้อคิดและประโยชน์นะครับ หรือถ้าไม่ได้อะไรเลยอย่างน้อยก็ลองดูศักยภาพด้านงานเขียนและความรู้ของ genAI ในยุคนี้กันดูครับ